เจาะลึก Notebook ตอนแรก

ด้วยว่าช่วงนี้อยากได้ notebook มาเป็นเพื่อนคู่กายสักเครื่อง ก็เลยหาข้อมูลหน่อย อยากให้ได้อ่านกัน Fujitsu S7021 (59,900 รวม vat) ข้อดี - เป็น notebook ที่สวยมากๆ ออกแบบได้อย่างพิถีพิถัน - แฟนชอบเพราะมันสวย *_* - ชอบที่แบรนด์ ไม่ซ้ำกับคนอื่น(ไม่ชอบเหมือนคนอื่น) - ขนาดเล็กเหมาะแก่การพกพา ด้วยน้ำหนักไม่ถึง 2kg - ครบครันด้านความบันเทิง (dvd-writer,หน้าจอ crystal bright,ระบบเสียง High Defination Audio) - ประสิทธิภาพสูง FSB 533 dual channel support, HDD 4200 rpm - ความแข็งแรงพอสมควร ใช้วัสดุอย่างดีในการประกอบ (made in japan world class) - ออกแบบตามหลัก egonomics - ตัวเครื่องไม่มีปัญหาจุกจิก รบกวน - การรับประกัน3 ปี, ศูนย์หาง่าย - แบต 6 cell up to 3.6 hours. ข้อเสียมาก - ราคาค่อนข้างสูง - อาจโดนดูถูกจากคนรอบข้าง(...อิจฉา...) ข้อเสียธรรมดา - ใช้ได้ไม่คุ้มค่านัก พวก fingerprint,windows licence (เอามาทำไม) ต่อด้วย IBM T43 (55,900 รวม vat) ข้อดี - แข็งแรงทนทาน ใช้ วัสดุชั้นดี (Magnesium & Titanium composite cover), HDD มี APS(Active Protection System) - ประสิทธิภาพสูง Frotn Side Bus 533 และ ram เป็น dual chanel HDD. 5400 rpm - ตัวเครื่องไม่มีปัญหาจุกจิก รบกวน - feedback ดี ดูเป็น programmer - ขนาดกระทัดรัด พกพาสะดวก หนาเพียง 26 mm เท่านั้น - สะดวกสบายในการใช้งาน ergonomic, thinklight - การรับประกัน 3 ปี, ศูนย์หาง่าย - คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป (DOS,combo-drive) - แบต 6 cell up to 4 hours. ข้อเสียมาก - โดนอาตี๋ซื้อไปแล้ว(ผมไม่ชอบอ่ะ) - หน้าตาไม่ค่อยสวย - โหล!! คนใช้ IBM เยอะ(ก็มันดีนี่หน่า -_-'' ) ข้อเสียธรรมดา - จอไม่ใช่ bright view - ไม่มี dvd-writer - น้ำหนักมากไปนิด(2.3 with weight saver)

core solo

คือซีพียูที่พัฒนาเพื่อทดแทน Celeron M และ Pentium M จริง ๆ แล้ว Core Solo คือ Core Duo ที่มี 1 Core ถูกปิดการทำงานไป (Core ที่ปิดการทำงานมักเป็น Core ที่ไม่ผ่าน QC) ซีพียู Core Solo จะมีความสามารถเหนือกว่า Pentium M ที่ความถี่เดียวกันเล็กน้อย ซีพียูกลุ่มนี้จะนำหน้าด้วยตัว T1xxx

Core Duo

Core Duo หรือ Duo Core เป็นโปรเซสเซอร์ (CPU) จากค่ายอินเทล ที่มีหน่วยประมวลผลอิสระ 2 คอร์ อยู่ในโปรเซสเซอร์ตัวเดียว ประกอบด้วย L2 Cache ที่ใช้ร่วมกันขนาด 1 MB โดย Intel Pentium Dual-Core เป็น CPU ที่จะมาแทน Intel Pentium D คะ คุณสมบัติของ Core Duo คือ
- เพิ่มประสิทธิภาพในด้านประหยัดพลังงานด้วยเทคโนโลยี  Intel Intelligent Power Capability สามารถใช้ประโยชน์จากโปรเซสเซอร์คอร์ได้สูงสุด โดยทำงานที่คลื่นความถี่ต่ำ และจะเปิดใช้ฟังก์ชั่นทำการประมวลผลก็ต่อเมื่อมีการใช้งานจริงเท่านั้นคะ
- มีตัวตรวจวัดอุณหภูมิ Digital Thermal Sensor (DTS) ทำหน้าที่ควบคุมความเร็วของพัดลมระบายความร้อน CPU ให้หมุนเร็วเท่าที่จำเป็น ทำให้เสียงดังที่เกิดจากความเร็วในการหมุนลดลง
รหัสของ Core Duo จะนำหน้าด้วย T2xxx, L2xxx หรือ U2xxx ซึ่งแตกต่างกันตามอัตราการใช้พลังงานเรียงจากมากไปหาน้อย

Intel Centrino Core Duo, Core 2 Duo(แล้วแต่รุ่น) กับ AMD Athlon 64 X2 Dual-Core

เปรียบเทียบ
Intel Centrino Core Duo, Core 2 Duo(แล้วแต่รุ่น) กับ AMD Athlon 64 X2 Dual-Core

มาดูข้อแตกต่างกันดีกว่าครับเพื่อการเรียนรู้น่ะ
..................................................................................
ค่าย Intel

         Core Duo
         ก็เป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นของ CPU ที่อยู่คั่นกลางระหว่างการเปลี่ยนแปลง เป็นยุค 32 Bit
และ 64 Bit ส่วนมากเราจะพบ Intel Core Duo นั้นอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุค ซึ่งอาจใช้
ชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า Centrino Duo ซึ่งชิปตัวนี้นั้นออกมา 2 รุ่นด้วยกัน Intel Core Solo ซึ่งเป็น
single core และ Intel Core Duo ซึ่งเป็น dual core โดยชิปรุ่นนี้เป็นชิปรุ่นสุดท้ายที่มีการนำ
สถาปัตยกรรม NetBurst มาใช้ในการออกแบบ และชิปตัวนี้นั้นยังคงอยู่ในตระกูล 32 บิทอยู่
และไม่มีการรองรับการทำงานแบบ Hyper Threading อีกแล้วเพราะว่าการทำงานแบบ dual
mode ได้เข้ามาในชิปรุ่นนี้แล้ว สำหรับเรื่องความร้อนก็ไม่ต้องพูดถึงสำหรับชิปรุ่นนี้ เพราะว่า
ยังคงใช้ NetBurst อยู่จึงทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับความร้อนอยู่ สังเกตได้จากการที่เวปไซต์
www.engadget.com ได้ทำการนำเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุคอย่าง Apple MacBook
มาทดสอบด้านความร้อน พบว่าด้านฐานของโน้ตบุคสามารถที่จะทอดไข่ดาวได้

         Intel Core 2 Duo
         เป็น Processor รุ่นก่อนจะล่าสุดของทาง Intel ซึ่งตัวชิปรุ่นนี้นั้นเกิดจากการผนวกกัน
ของ Processor 3 Serial คือ
         Woodcrest - ซึ่งเป็น Processor คุณภาพสูง ปัจจุบันพบว่านำไปผลิตเป็น Intel Xeon
สำหรับเครื่องเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ถือว่ายังอยู่ใน Intel Core 2 Duo
อยู่ เพราะว่าการพัฒนานั้น มาพร้อมกับชิปอีก 2 รุ่น
         Conroe เป็นโพรเซสเซอร์ระดับสูงเช่นเดียวกัน โดยปัจจุบันพบว่าทางอินเทลนำชิป
คอนโรมาผลิต Intel Core 2 Duo และ Intel Core 2 Extreme ซึ่งให้ประสิทธิภาพการทำงาน
ที่เหนือระดับมาก
         Merom เป็น Processor ระดับสูงสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา มีคุณสมบัติสำหรับ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการเคลื่อนที่ มีประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นก่อนๆ
         สำหรับ Intel Core 2 Duo นั้นทาง Intel ได้เปลี่ยนสถาปัตยกรรมในการออกแบบจาก
เดิมที่ใช้ NetBurst มาเป็น Core Architecture โดยทำให้สามารถแก้ไขปัญหาทางด้านความ
ร้อนได้ และนอกจากนี้ Intel ได้เปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตโดยสมบูรณ์แบบในรุ่นนี้ ซึ่งทาง
Intel ได้เดินเครื่องการผลิตโดยใช้เทคโนโลยี 65 นาโนเมตร ซึ่งทำให้ Processor ที่ออกมา
นั้นมีคุณสมบัติพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการที่เทคโนโลยีการผลิตมีขนาดเล็กลง ทำให้จำนวนทรานซิสเตอร์มีจำนวนมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง AMD Athlon 64x2 , AMD Athlon
64 FX เป็นต้น
..................................................................................
ค่าย AMD Athlon

         Dual core
         คือ Micro Processor ที่มีลักษณะพิเศษ ซึ่งโดยทั่วไปภายใน Micro Processor นั้น
จะมี Processor เพียงตัวเดียว แต่สำหรับ Dual core นั้นมี Processor 2 ตัว โดยการทำงาน
ของ Dual core ปกติแล้ว จะไม่เร็วกว่า Micro Processor โดยทั่วไป ถ้าจะเร็วกว่าก็จะเร็วกว่า
เพียงความถี่ของนาฬิกา ซึ่งขึ้นกับรุ่นของ CPU ว่ามีความถี่ของนาฬิกาเท่าไร
         แต่สิ่งที่ ทำให้ Dual core ดีกว่า Processor คอร์เดี่ยว หรือที่เรียกกันว่า Single core
นั้นก็คือ dual core สามารถที่จะทำงานหลายๆ งานได้พร้อมๆกัน ทั้งนี้นั้นต้องขึ้นกับระบบ
ปฏิบัติการด้วย ว่าให้การสนับสนุนการทำงานแบบ Multi threading , Multi tasking หรือ Multi
processing หรือเปล่า ซึ่งถ้าระบบปฏิบัติการไม่ให้การสนับสนุนก็เท่ากับว่า dual core ที่อยู่ใน
เครื่องคุณ สามารถที่จะทำงานได้เหมือนกันกับ single core เท่านั้นเอง
         ในปัจจุบันนี้นั้นมี Processor ให้เลือกซื้อในท้องตลาดเป็นจำนวนมาก โดยสามารถที่จะ
แบ่งแยกตามจำนวนคอร์ หรือว่าแบ่งแยกตามสถาปัตยกรรมที่ใช้ในการผลิตก็ได้
         นอกจากนี้นั้น จำนวน Bit ที่ CPU สามารถทำงานได้ก็มีผลต่อการเลือกซื้อ สำหรับ
Microsoft Windows XP นั้น รองรับการทำงานของ CPU แบบ 32 Bit แต่สำหรับ CPU ที่
สามารถทำงานได้แบบ 64 Bit ก็สามารถที่จะใช้งาน Windows XP ได้ แต่ก็สามารถทำงานได้
ที่ 32 Bit เท่านั้น ก็ถือว่าไม่เต็มประสิทธิภาพการทำงานกันไป สำหรับระบบปฏิบัติการที่สามารถ
ทำงานได้บน 64 Bit นั้นก็จะมี Linux ในเวอร์ชั่นต่างๆ ซึ่งมีจำนวนมากในปัจจุบัน Microsoft
Windows Vista, Windows 7 ซึ่งจะวางตลาดตามกำหนดการประมาณช่วงปี 2010 และระบบ
ปฏิบัติการจากค่าย Apple McIntosh อย่าง Mac OS X Leopard ซึ่งมีออกวางจำหน่ายแล้ว
และสำหรับปัจจุบันที่ใช้กันอยู่ก็คือ Windows 64 bit ซึ่งสามารถหาซื้อกันได้ตามท้องตลาด


ส่วนการ์ดจอนั้นให้เลือกโน้ตบุ๊คที่ใช้การ์ดจอที่ไม่ออน หรือไม่แชร์แรมน่ะครับ

สำหรับผมแล้วในราคาที่ใกล้เคียงกันแล้ว ผมจะมอง AMD Turion X2 มากกว่า ทั้งสองตัวนั้น
ครับ เนื่องจากว่ามีข้อดีทีเหนือกว่าทางชิปของ Intel ทางด้านแบนด์วิทที่ไหลเข้าออกของ ชิป
ซึ่งสำหรับ Turion x2 สามารถที่จะรับแบนด์วิทจากอุปกรณ์ได้สูงถึง 6.4 GB/s สำหรับหน่วย
ความจำรับได้สูงถึง 10.7 GB/s ในขณะที่ทางอินเทลอย่าง Intel Core Duo รองรับได้เพียง
5.3 GB/s และนอกจากนี้คือ Cache ซึ่งเป็นหน่วยความจำความถี่สูงภายในของโพรเซสเซอร์
ของเอเอ็มดีนั้นเป็นแบบ แยก คือในแต่ละคอร์ของเอเอ็มดีนั้นจะมี Cache แยกเป็นของตนเอง
แต่สำหรับทางอินเทล ใช้การผลิต Cache ที่มีขนาดใหญ่และให้ในแต่ละคอร์นั้น ใช้ Cache
ที่มีขนาดใหญ่นี้ร่วมกัน และนอกจากนี้ทางเอเอ็มดีมีการนำ Memory Controller เข้ามาใช้เพื่อ
ช่วยลดปัญหาคอขวด ในขณะที่ทางอินเทลยังใช้อุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่กับชิปเซตอยู่

ออกแล้ว Firefox 3.5.1 แก้ 1 ข้อผิดผลาดด้านความปลอดภัย

อัพเดทใหม่สดๆ ร้อนๆ ครับ สำหรับ Firefox โดยออกเวอร์ชันใหม่ Firefox 3.5.1 เพื่อแก้ 1 ข้อผิดผลาดด้านความปลอดภัยร้ายแรง ใครยังไม่อัพเดทก็รีบอัพเดทให้เรียบร้อยนะครับเพื่อความปลอดภัย....

ฟีเจอร์ใหม่ใน Firefox 3.5.1
ใน Firefox 3.5.1 นั้น Mozilla ได้ทำการปรับปรุงด้านต่างๆ ดังนี้
- แก้ปัญหาเกี่ยวกับช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่พบในเวอร์ชัน 3.5 จำนวน 1 ช่องโหว่
- แก้ปัญหาเกี่ยวกับความเสถียรภาพของการทำงาน
- แก้ปัญหาเรื่อง Firefox โหลดช้าในระบบปฏิบัติการวินโวส์บางระบบ

ข้อผิดผลาดที่ได้รับการแก้ไข
ใน Firefox 3.5.1 นั้น Mozilla ได้ทำการแก้ข้อผิดผลาดเกี่ยวกับช่องโหว่ด้านความปลอดภัยจำนวน 1 ช่องโหว่ ดังนี้
- MFSA 2009-41 Corrupt JIT state after deep return from native function

การดาวน์โหลด Firefox 3.5.1
โปรแกรมติดตั้ง Mozilla Firefox 3.5.1 เวอร์ชันสำหรับ Windows นั้นมีขนาดประมาณ 7.7 MB โดยผู้ใช้ทั่วไปสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากเว็บไซต์ดังนี้
• Mozilla Firefox 3.5.1 Download Page
• Mozilla Firefox 3.5.1 for Windows
• Mozilla Firefox 3.5.1 for MAC OS X
• Mozilla Firefox 3.5.1 for Linux

วิธีการติดตั้ง Firefox 3.5.1
วิธีการติดตั้ง Mozilla Firefox 3.5.1 นั้น แบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกัน ตามรายละเอียดดังนี้
แบบที่ 1
การอัพ เดทจาก Firefox เวอร์ชันก่อนที่ติดตั้งอยู่แล้ว ถ้าหากตั้งค่า Advanced>Update>Automatically check for update to: Firefox เมื่อทำการเปิดใช้งาน Firefox และมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต Firefox ก็จะทำการตรวจสอบการอัพเดทโดยอัตโนมัติ (สามารถสั่งให้ Firefox ทำการตรวจสอบการอัพเดทแบบแมนนวล โดยการคลิกที่เมนู Help แล้วคลิก Check for Updates)

แบบที่ 2
การติดตั้ง Firefox 3.5.1 ใหม่ โดยสามารถดาวน์โหลด Firefox เวอร์ชันสำหรับวินโดวส์ได้จาก Download Mozilla Firefox 3.5.1 for Windows แล้วทำการติดตั้งแบบแมนนวล โดยสามารถสำหรับอ่านรายละเอียดขั้นตอนและวิธีการติดตั้งได้จาก การติดตั้ง Mozilla Firefox 3.0

แนวปฏิบัติในการป้องกันไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิด A (H1N1) สำหรับผู้ให้บริการคอมพิวเตอร์

คงเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิด A (H1N1) ในประเทศไทยมีการแพร่กระจายไปอย่างมาก และห้องบริการคอมพิวเตอร์ (รวมถึงร้านอินเตอร์เน็ต) ก็เป็นหนึ่งในจุดที่มีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่กระจายเชื้อไปในกลุ่มผู้ใช้ บริการ (นักเรียน นักศึกษา รวมทั้งอาจารย์ และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลห้อง) อย่างรวดเร็ว อีกทั้งอาจเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อต่อเนื่องออกไปสู่ชุมชนอีกด้วย

เนื่อง จากผมเองนั้นต้องเกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการคอมพิวเตอร์ จึงได้จัดทำแนวปฏิบัติในการให้บริการห้องคอมพิวเตอร์ ซึ่งประยุกต์มาจาก "คำแนะนำ เรื่อง ข้อปฏิบัติสำหรับสถาบันกวดวิชา ร้านอินเตอร์เน็ตและร้านเกมส์" ของสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (http://beid.ddc.moph.go.th/th/) เพื่อให้เหมาะสมกับการให้บริการห้องคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ ก็เลยขอนำแนวปฏิบัติดังกล่าวมาเผยแพร่ ซึ่งท่านอื่นๆ อาจจะนำไปประยุกต์ใช้ในส่วนที่เกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบ ครับ

แนวปฏิบัติสำหรับผู้รับผิดชอบการให้บริการห้องบริการคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการคอมพิวเตอร์ในสถานศึกษา การให้บริการคอมพิวเตอร์ในการฝึกอบรม หรือการให้บริการอื่นๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิด A (H1N1) ภายในห้องบริการคอมพิวเตอร์ มีดังนี้

1. ทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประกอบ โดยเฉพาะเม้าส์ คีบอร์ดคอมพิวเตอร์ จอภาพ หูฟัง ไมโครโฟน จอยสติ๊ก แผ่นรองเม้าส์ รวมถึงเครื่องใช้อื่นๆ ที่มีผู้สัมผัสเป็นจำนวนมาก เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ลูกบิดประตู เครื่องโทรศัพท์ ราวบันได ฯลฯ ด้วยน้ำยาทำความสะอาด (ฆ่าเชื้อ) ทั่วไป อย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง

สำหรับอุปกรณ์ที่มีผู้ ใช้งานสัมผัสเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น เม้าส์ คีบอร์ดคอมพิวเตอร์ หูฟัง และไมโครโฟน ควรทำความสะอาดให้บ่อยที่สุดเท่าที่สามารถทำได้

2. เผยแพร่คำแนะนำให้ผู้ใช้บริการทราบเกี่ยวกับ "การปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิด A (H1N1) รวมถึงคำแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วย" โดยอาจจะจัดทำเป็น เอกสาร แผ่นพับ โปสเตอร์ หรือจัดทำเว็บไซต์ รวมถึงทำเป็นวอลล์เปเปอร์แสดงบนจอคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง

3. ประชาสัมพันธ์และสนับสนุนให้ผู้ใช้บริการทำความสะอาดมือด้วยแจลแอลกอฮอล์ ล้างมือ หรือล้างมือก่อนเข้าใช้บริการ โดยการจัดเตรียมเจลแอลกอฮอลล้างมือไว้ประจำแต่ละห้อง หรือจัดให้มีอ่างล้างมือพร้อมน้ำและสบู่ โดยควรจัดให้มีอย่างเหมาะสมและเพียงพอ

4. จัดเตรียมหน้ากากอนามัยไว้ประจำแต่ละห้อง สำหรับให้บริการกับผู้ใช้บริการรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบดูแลการให้บริการ

5. เมื่อห้องว่างควรเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกและแสงแดดส่องได้ ทั่วถึง และควรทำความสะอาดพื้นด้วยความสะอาด (ฆ่าเชื้อ) อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง รวมถึงทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ

หมายเหตุ:
ใน กรณีมีผู้ใช้บริการที่มีอาการเข้าข่ายสงสัยว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ ใหม่ 2009 ชนิด A (H1N1) มาใช้บริการ ให้แจ้งให้ฝ่ายที่รับผิดชอบมารับตัวไปในทันที จากนั้นให้ทำการปิดห้องบริการคอมพิวเตอร์ดังกล่าว แล้วทำความสะอาดและฆ่าเซื้อในห้องนั้นทันที

หวังว่าคงจะพอเป็นแนวทาง ให้กับผู้ที่รับผิดชอบดูแลการให้บริการห้องคอมพิวเตอร์ได้บ้างนะครับ ท้ายนี้ ถึงแม้ว่าโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิด A (H1N1) นั้นร้ายแรง แต่เป็นแล้วก็สามารถรักษาให้หายได้ และที่สำคัญหากเราช่วยเหลือร่วมมือช่วยกันป้องกันกันทุกภาคส่วนก็จะสามารถ ชะลอหรือหยุดการแพร่ระบาดลงได้ในที่สุดครับ

Virus โจมตีโปรแกรม Adobe Flash Player, Adobe Reader และ Acrobat แล้ว ใครใช้อยู่อัพเดทด่วน

สืบเนื่องจากที่ผมเคยโพสต์เรื่อง ระวังไวรัสโจมตีผ่านทาง Flash Player และ Adobe Reader โดยแอบมากับไฟล์ PDF ซึ่งมีผลกระทบกับโปรแกรม Adobe Flash Player 9.0.159.0 และ 10.0.22.87 และโปรแกรม Adobe Reader 9.1.2 และ Acrobat 9.1.2 บนทุกระบบปฏิบัติการ ล่าสุด Adobe ได้ออกแพตซ์สำหรับแก้ไขช่องโหว่นี้แล้ว โดยสามารถดาวน์โหลดหรืออัพเดทได้ตามรายละเอียดด้านล่างครับ

• Adobe Flash Player 9.0.159.0 และ 10.0.22.87
สำหรับผู้ที่ใช้โปรแกรม Flash Player 10.0.22.87 หรือเก่ากว่า ให้อัพเดทเป็นเวอร์ชัน 10.0.32.18 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ได้รับการแก้ไขปัญหาช่องโหว่ความปลอดภัยแล้ว

วิธีการอัพเดทผ่านทางเบราเซอร์ ให้เปิดไปที่เว็บไซต์ Adobe Flash Player 10.0.32.18 จากนั้นคลิก Agree and install now แล้วปฏิบัติการขั้นตอนบนจอภาพ

หมายเหตุ: ให้ทำการอัพเดท Flash Player ในเบราเซอร์ทุกตัวที่ติดตั้งบนเครื่อง

วิธีการอัพเดทโดยดาวน์โหลดแพตซ์ (Patch) มาติดตั้งด้วยตนเอง โดยสามารถดาวน์โหลดแพตซ์ได้ที่เว็บไซต์ Download Adobe Flash Player หรือดาวน์โหลดโดยตรงจากเว็บไซต์ด้านล่าง

• Flash Player 10 for Internet Explorer (Windows) โหลดได้ที่เว็บไซต์ Download EXE Installer

• Flash Player 10 for Plugin-based browsers (Windows) โหลดได้ที่เว็บไซต์ Download EXE Installer

• Flash Player 10 for Mozilla Firefox (Windows) โหลดได้ที่เว็บไซต์ Download Adobe Flash Player for Firefox 10

หมายเหตุ: สำหรับท่านที่ไม่แน่ใจว่าโปรแกรม Flash Player ที่ใช้อยู่เป็นเวอร์ชันใด สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ http://www.adobe.com/software/flash/about/

• Adobe Reader 9.1.2 และ Acrobat 9.1.2
สำหรับผู้ที่ใช้โปรแกรม Adobe Reader 9.1.2 และ Acrobat 9.1.2 ให้อัพเดทเป็นเวอร์ชัน 9.1.3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ได้รับการแก้ไขปัญหาช่องโหว่ความปลอดภัยแล้ว โดยสามารถดาวน์โหลดหรืออัพเดทได้ตามรายละเอียดด้านล่างครับ

Adobe Reader 9.1.2
• ผู้ที่ใช้ Adobe Reader 9.1.2 หรือเก่ากว่า สามารถอัพเดทเป็น Adobe Reader 9.1.3 โดยดาวน์โหลดอัพเดทได้จากเว็บไซต์ (ขนาดโดยประมาณ 1.6 MB) ดาวน์โหลด Adobe Reader 9.1.3 Update

• สำหรับการติดตั้ง Adobe Reader ใหม่ สามารถดาวน์โหลด Adobe Reader 9.1 ได้จากเว็บไซต์ (ขนาดโดยประมาณ 35.7 MB) ดาวน์โหลด Adobe Reader 9.1 หลังจากติดตั้ง Adobe Reader 9.1 เสร็จแล้วจึงทำการอัพเดทเป็น 9.1.3

Acrobat 9.1.2 Standard และ Acrobat 9.1.2 Pro
• ผู้ที่ใช้ Acrobat 9.1.2 Standard และ Acrobat 9.1.2 Pro หรือเก่ากว่า สามารถอัพเดทเป็น Acrobat 9.1.3 Standard และ Acrobat 9.1.3 Pro ตามลำดับ โดยดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ (ขนาดโดยประมาณ 1.6 MB) ดาวน์โหลด Adobe Acrobat 9.1.3 Pro and Standard update

หมายเหตุ: อัพเดทเป็นแบบหลายภาษา (Multiple Languages)

สำหรับ Adobe Reader นั้น นอกจากวิธีการดาวน์โหลดอัพเดทมาติดตั้งเองแล้ว ยังสามารถทำการอัพเดทโดยไม่ต้องดาวน์โหลด โดยเปิดโปรแกรม Adobe Reader จากนั้นให้คลิกที่เมนู Help แล้วคลิก Check for updates… แล้วทำตามคำสั่งบนจอภาพ

หมายเหตุ: วิธีการตรวจสอบเวอร์ชันทำได้โดยคลิกเมนู Help แล้วคลิก About Adobe Reader [เวอร์ชัน]

ท้าย นี้ ผมขอแนะนำให้ทุกท่านที่ใช้โปรแกรมทั้ง 2 ตัว ที่มีผลกระทบ ให้ทำการอัพเดทในทันทีที่ทำได้ เพื่อป้องกันการโจมตีจากไวรัสแล้วมัลแวร์ครับ เนื่องจากข้อผิดผลาดนี้ทำให้ติดไวรัสทันทีที่เปิดไฟล์ที่มีไวรัสแฝงอยู่ ซึ่งปัจจุบันมีรายงานว่าไวรัสเริ่มโจมตีระบบแล้ว

• ที่มา: Thai Windows Administrator Blog